หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มการเดิมพัน ESport ที่นำเสนอรูปแบบการเดิมพันที่หลากหลาย พร้อมกับโปรโมชั่นแบบจุใจ เว็บ FAW99 เป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการเดิมพันอีสปอร์ตที่ครบวงจร โดยเฉพาะ Handicap betting หรือการเดิมพันแบบต่อ/รับ ซึ่งเป็นวิธีการเดิมพันที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นการเดิมพันที่ช่วยให้โอกาสในการชนะของทั้งสองทีมดูใกล้เคียงกันมากขึ้น แต่การจะทำกำไรให้ได้อย่างที่ต้องการ เราจำเป็นต้องรู้จักกับการเดิมพันรูปแบบนี้ให้ดีเสียก่อน
หลักการของ Handicap betting
Handicap betting ใน ESport เป็นรูปแบบการเดิมพันที่น่าสนใจและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ หลักการสำคัญของ Handicap betting คือการสร้างความสมดุลระหว่างทีมที่มีความแข็งแกร่งต่างกัน โดยการให้ความได้เปรียบหรือเสียเปรียบเสมือนจริงแก่ทีมใดทีมหนึ่งก่อนเริ่มการแข่งขัน
ในระบบ Handicap betting ทีมที่แข็งแกร่งกว่าจะได้รับ Handicap เป็นลบ เช่น -1.5 ซึ่งหมายความว่าทีมนี้จะต้องชนะด้วยคะแนนที่มากกว่า 1.5 เกมหรือแมตช์ เพื่อให้ผู้เดิมพันที่เลือกทีมนี้ชนะการเดิมพัน ในทางกลับกัน ทีมที่อ่อนกว่าจะได้รับ Handicap เป็นบวก เช่น +1.5 ซึ่งหมายความว่าทีมนี้สามารถแพ้ได้ไม่เกิน 1.5 เกมหรือแมตช์ และผู้เดิมพันที่เลือกทีมนี้ก็จะยังชนะการเดิมพัน
การใช้ระบบ Handicap นี้ช่วยให้การเดิมพันมีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากช่วยปรับสมดุลระหว่างทีมที่มีความแข็งแกร่งต่างกัน ทำให้ผู้เดิมพันมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีไม่ว่าจะเลือกเดิมพันทีมไหน
ประเภทของ Handicap ในเกมต่าง ๆ
Handicap betting ในวงการ ESport มีความหลากหลายและแตกต่างกันไปตามประเภทของเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างเกมแนว First-Person Shooter (FPS) และ Multiplayer Online Battle Arena (MOBA) ซึ่งมีระบบการแข่งขันที่แตกต่างกัน
ในเกม MOBA เช่น League of Legends และ Dota 2 Handicap betting มักจะเกี่ยวข้องกับจำนวนเกมที่ชนะในการแข่งขันแบบ Best-of-Three (Bo3) หรือ Best-of-Five (Bo5) นอกจากนี้ ยังมี Handicap ที่เกี่ยวข้องกับจำนวนการสังหาร (Kill) ในแต่ละเกมด้วย
ส่วนในเกม FPS อย่าง Counter-Strike: Global Offensive (CS:GO) Handicap betting อาจเกี่ยวข้องกับจำนวนแมพที่ชนะในการแข่งขันแบบ Bo3 หรือ Bo5 เช่นเดียวกับเกม MOBA แต่ก็มี Handicap ที่เกี่ยวข้องกับจำนวนรอบ (Round) ที่ชนะในแต่ละแมพด้วย
ความแตกต่างนี้ทำให้ Handicap betting ใน ESport มีความหลากหลายและน่าสนใจ เพราะผู้เดิมพันต้องพิจารณาปัจจัยที่แตกต่างกันไปตามประเภทของเกมและรูปแบบการแข่งขัน
ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้
ในการเดิมพันแบบ Handicap ใน ESport ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มีความแตกต่างจากกีฬาแบบดั้งเดิมอย่างฟุตบอล ในกีฬาทั่วไป การเดิมพันแบบ Handicap อาจมีผลลัพธ์ได้ 3 แบบคือ ชนะ, แพ้ หรือเสมอ (push)
แต่ใน ESport ส่วนใหญ่ ผลการแข่งขันมักจะมีเพียงแพ้หรือชนะเท่านั้น โอกาสที่จะเกิดผลเสมอนั้นมีน้อยมาก เว้นแต่ในบางทัวร์นาเมนต์ที่มีกฎพิเศษ ดังนั้น ผู้เดิมพันจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าทีมที่ตนเลือกจะสามารถทำผลงานได้ตามที่ Handicap กำหนดหรือไม่
ตัวอย่างเช่น ในการแข่งขันแบบ Bo3 หากทีม A ได้รับ Handicap -1.5 และทีม B ได้รับ Handicap +1.5
- ถ้าทีม A ชนะ 2-0 ผู้ที่เดิมพันทีม A จะชนะการเดิมพัน
- ถ้าทีม A ชนะ 2-1 ผู้ที่เดิมพันทีม B จะชนะการเดิมพัน
- ถ้าทีม B ชนะไม่ว่าจะ 2-0 หรือ 2-1 ผู้ที่เดิมพันทีม B จะชนะการเดิมพัน
การที่ผลลัพธ์มีเพียงแพ้หรือชนะนี้ ทำให้การเดิมพันแบบ Handicap ใน ESport มีความตรงไปตรงมาและน่าตื่นเต้น เพราะผู้เดิมพันจะรู้ผลการเดิมพันของตนอย่างชัดเจนเมื่อจบการแข่งขัน
Handicap betting ใน ESport เป็นรูปแบบการเดิมพันที่น่าสนใจและท้าทาย ผู้เดิมพันต้องมีความเข้าใจในระบบ Handicap รวมถึงต้องวิเคราะห์ข้อมูลของทีมและรูปแบบการแข่งขันอย่างละเอียด เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะการเดิมพัน การเข้าใจพื้นฐานของ Handicap betting ทั้งในแง่ของหลักการ ประเภทของ Handicap ในเกมต่าง ๆ และผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ จะช่วยให้ผู้เดิมพันสามารถตัดสินใจเลือกเดิมพันได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น
Handicap ในเกม MOBA
ในวงการ ESport เกมประเภท Multiplayer Online Battle Arena (MOBA) เป็นหนึ่งในประเภทเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง League of Legends และ Dota 2 ซึ่งมีการแข่งขันระดับโลกและมีผู้ชมจำนวนมาก การเดิมพันแบบ Handicap ในเกม MOBA มีลักษณะเฉพาะที่น่าสนใจ ซึ่งแตกต่างจากเกมประเภทอื่น ๆ
การเดิมพันใน League of Legends และ Dota 2
ในเกม MOBA อย่าง League of Legends และ Dota 2 การแข่งขันมักจัดในรูปแบบ Best-of-Three (Bo3) ซึ่งหมายความว่าทีมที่ชนะ 2 เกมก่อนจะเป็นผู้ชนะในแมตช์นั้น ในการเดิมพันแบบ Handicap สำหรับการแข่งขัน Bo3 นี้ เจ้ามือมักจะกำหนด Handicap ที่ +1.5 และ -1.5 ซึ่งมีความหมายดังนี้
สำหรับทีมที่ได้รับ Handicap +1.5
- ทีมนี้จะเริ่มต้นด้วยความได้เปรียบ 1.5 เกม
- ผู้เดิมพันที่เลือกทีมนี้จะชนะการเดิมพัน หากทีมชนะอย่างน้อย 1 เกมในชุด Bo3 หรือชนะทั้งหมด
สำหรับทีมที่ได้รับ Handicap -1.5
- ทีมนี้จะเริ่มต้นด้วยความเสียเปรียบ 1.5 เกม
- ผู้เดิมพันที่เลือกทีมนี้จะชนะการเดิมพัน ก็ต่อเมื่อทีมชนะทั้ง 2 เกมในชุด Bo3 เท่านั้น
ระบบ Handicap แบบนี้ช่วยสร้างความสมดุลในการเดิมพัน โดยเฉพาะในกรณีที่มีทีมที่เป็นต่อชัดเจน การให้ Handicap -1.5 กับทีมที่แข็งแกร่งกว่าจะทำให้ผู้เดิมพันที่เลือกทีมนี้ได้รับอัตราต่อรองที่ดีขึ้น ในขณะที่ผู้เดิมพันที่เลือกทีมรอง (ได้รับ Handicap +1.5) ก็มีโอกาสชนะการเดิมพันแม้ว่าทีมจะแพ้ในการแข่งขันจริง
วิธีการชนะเดิมพัน
การเข้าใจวิธีการชนะเดิมพันในระบบ Handicap เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เดิมพัน ESport โดยเฉพาะในเกม MOBA ที่มีการแข่งขันแบบ Bo3 ดังนี้
การเดิมพันทีมที่ได้ Handicap +1.5
- ผู้เดิมพันจะชนะ หากทีมที่เลือกชนะอย่างน้อย 1 เกมในชุด Bo3
- ผู้เดิมพันจะชนะ แม้ว่าทีมที่เลือกจะแพ้ในผลการแข่งขันจริงด้วยสกอร์ 1-2
- ผู้เดิมพันจะชนะอย่างแน่นอน หากทีมที่เลือกชนะการแข่งขันจริงไม่ว่าจะด้วยสกอร์ 2-0 หรือ 2-1
การเดิมพันทีมที่ได้ Handicap -1.5
- ผู้เดิมพันจะชนะ ก็ต่อเมื่อทีมที่เลือกชนะการแข่งขันจริงด้วยสกอร์ 2-0 เท่านั้น
- ผู้เดิมพันจะแพ้ หากทีมที่เลือกชนะด้วยสกอร์ 2-1 หรือแพ้การแข่งขันจริง
วิธีการชนะเดิมพันแบบนี้ทำให้การเดิมพัน Handicap ใน MOBA มีความน่าสนใจและท้าทาย ผู้เดิมพันต้องวิเคราะห์ไม่เพียงแค่ว่าทีมไหนจะชนะ แต่ยังต้องคาดการณ์ว่าทีมจะชนะด้วยสกอร์อย่างไรด้วย
Kill Handicap
นอกจาก Handicap ที่เกี่ยวกับผลการแข่งขันแล้ว ในเกม MOBA ยังมี Handicap อีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจคือ Kill Handicap ซึ่งเป็นการเดิมพันบนจำนวนการสังหาร (Kill) ในเกม
Kill Handicap มีช่วง Handicap ตั้งแต่ -5.5 ถึง +5.5 โดยมีหลักการดังนี้
- ทีมที่ได้รับ Kill Handicap -5.5 จะต้องมีจำนวน Kill มากกว่าทีมตรงข้ามอย่างน้อย 6 ครั้งขึ้นไป ผู้เดิมพันที่เลือกทีมนี้จึงจะชนะการเดิมพัน
- ทีมที่ได้รับ Kill Handicap +5.5 จะต้องมีจำนวน Kill น้อยกว่าทีมตรงข้ามไม่เกิน 5 ครั้ง ผู้เดิมพันที่เลือกทีมนี้จึงจะชนะการเดิมพัน
Kill Handicap นี้มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจาก
- ไม่ขึ้นกับผลแพ้ชนะของเกม ผู้เดิมพันสามารถชนะการเดิมพัน Kill Handicap ได้ แม้ว่าทีมที่เลือกจะแพ้ในการแข่งขันจริง ตราบใดที่ทีมนั้นทำได้ตาม Kill Handicap ที่กำหนด
- เพิ่มความตื่นเต้นตลอดการแข่งขัน ผู้เดิมพันจะต้องลุ้นกับทุกการสังหารที่เกิดขึ้นในเกม ทำให้การรับชมการแข่งขันมีความสนุกและน่าตื่นเต้นมากขึ้น
- ต้องใช้ความรู้เชิงลึกของเกม การเดิมพัน Kill Handicap ต้องอาศัยความเข้าใจในรูปแบบการเล่นของแต่ละทีม ความสามารถของผู้เล่น และกลยุทธ์การเล่นที่เน้นการสังหาร
ในการเดิมพัน Kill Handicap ผู้เดิมพันควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น
- รูปแบบการเล่นของทีม บางทีมอาจเน้นการสังหารมากกว่าการทำลายหอคอยหรือฐานของศัตรู
- ตัวละครที่เลือกใช้ บางตัวละครมีความสามารถในการสังหารที่สูงกว่าตัวอื่น ๆ
- ประวัติการแข่งขัน ดูว่าในการแข่งขันที่ผ่านมา แต่ละทีมมีสถิติการสังหารเป็นอย่างไร
Kill Handicap เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดิมพัน ESport โดยเฉพาะในเกม MOBA อย่าง League of Legends และ Dota 2 การเข้าใจระบบ Kill Handicap และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบคอบจะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะการเดิมพันได้มากขึ้น
Handicap betting ในเกม MOBA ไม่ว่าจะเป็นการเดิมพันบนผลการแข่งขันหรือ Kill Handicap ล้วนเพิ่มมิติความน่าสนใจให้กับการรับชมและเดิมพัน ESport ผู้เดิมพันควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด วิเคราะห์สถิติและรูปแบบการเล่นของแต่ละทีม รวมถึงติดตามข่าวสารล่าสุดของวงการ ESport อยู่เสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจเดิมพันที่แม่นยำมากขึ้น
Handicap ในเกม FPS
เกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง หรือ First-Person Shooter (FPS) เป็นอีกหนึ่งประเภทเกมที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในวงการ ESport การเดิมพันแบบ Handicap ในเกม FPS มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากเกมประเภทอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกม Counter-Strike: Global Offensive (CS:GO) ซึ่งเป็นหนึ่งในเกม FPS ที่มีการแข่งขันระดับโลกและมีผู้ชมจำนวนมาก
Handicap ใน Counter-Strike: Global Offensive (CS:GO)
ในการแข่งขัน CS:GO ทั่วไป รูปแบบการแข่งขันมักเป็นแบบ Best-of-Three (Bo3) เช่นเดียวกับเกม MOBA อย่างไรก็ตาม ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ อย่าง Major Final การแข่งขันอาจจัดในรูปแบบ Best-of-Five (Bo5) ซึ่งหมายความว่าทีมที่ชนะ 3 แมพก่อนจะเป็นผู้ชนะในแมตช์นั้น
ในการเดิมพันแบบ Handicap สำหรับการแข่งขัน Bo5 นี้ เจ้ามือมักจะกำหนด Handicap ที่ +2.5 และ -2.5 ซึ่งมีความหมายดังนี้
สำหรับทีมที่ได้รับ Handicap +2.5
- ทีมนี้จะเริ่มต้นด้วยความได้เปรียบ 2.5 แมพ
- ผู้เดิมพันที่เลือกทีมนี้จะชนะการเดิมพัน หากทีมชนะอย่างน้อย 2 แมพในชุด Bo5 หรือชนะทั้งหมด
สำหรับทีมที่ได้รับ Handicap -2.5
- ทีมนี้จะเริ่มต้นด้วยความเสียเปรียบ 2.5 แมพ
- ผู้เดิมพันที่เลือกทีมนี้จะชนะการเดิมพัน ก็ต่อเมื่อทีมชนะอย่างน้อย 3 แมพในชุด Bo5 เท่านั้น
ระบบ Handicap แบบนี้ช่วยสร้างความสมดุลในการเดิมพัน โดยเฉพาะในกรณีที่มีทีมที่เป็นต่อชัดเจน การให้ Handicap -2.5 กับทีมที่แข็งแกร่งกว่าจะทำให้ผู้เดิมพันที่เลือกทีมนี้ได้รับอัตราต่อรองที่ดีขึ้น ในขณะที่ผู้เดิมพันที่เลือกทีมรอง (ได้รับ Handicap +2.5) ก็มีโอกาสชนะการเดิมพันแม้ว่าทีมจะแพ้ในการแข่งขันจริง
Round Handicap ใน CS:GO
นอกจาก Handicap ที่เกี่ยวกับจำนวนแมพที่ชนะแล้ว ใน CS:GO ยังมีอีกรูปแบบหนึ่งของ Handicap ที่น่าสนใจคือ Round Handicap ซึ่งเป็นการเดิมพันบนจำนวนรอบที่แต่ละทีมชนะในแต่ละแมพ
ในการแข่งขัน CS:GO แต่ละแมพจะประกอบด้วย 30 รอบปกติ โดยทีมที่ชนะ 16 รอบก่อนจะเป็นผู้ชนะในแมพนั้น หากทั้งสองทีมเสมอกันที่ 15-15 จะมีการเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ (Overtime)
Round Handicap ใน CS:GO มีช่วง Handicap ตั้งแต่ +7.5 ถึง -7.5 โดยมีหลักการดังนี้
- ทีมที่ได้รับ Round Handicap +7.5 จะต้องชนะอย่างน้อย 8 รอบในแมพนั้น ผู้เดิมพันที่เลือกทีมนี้จึงจะชนะการเดิมพัน
- ทีมที่ได้รับ Round Handicap -7.5 จะต้องชนะมากกว่าทีมตรงข้ามอย่างน้อย 8 รอบขึ้นไป ผู้เดิมพันที่เลือกทีมนี้จึงจะชนะการเดิมพัน
Round Handicap นี้มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจาก
- ให้ความสำคัญกับทุกรอบการเล่น แม้ว่าทีมหนึ่งจะนำห่างและมีโอกาสชนะแมพสูง แต่ทุกรอบยังคงมีความสำคัญสำหรับการเดิมพัน Round Handicap
- เพิ่มความตื่นเต้นตลอดการแข่งขัน ผู้เดิมพันจะต้องลุ้นกับทุกรอบที่เกิดขึ้นในแมพ ทำให้การรับชมการแข่งขันมีความสนุกและน่าตื่นเต้นมากขึ้น
- ต้องใช้ความรู้เชิงลึกของเกม การเดิมพัน Round Handicap ต้องอาศัยความเข้าใจในรูปแบบการเล่นของแต่ละทีม, ความสามารถของผู้เล่น และกลยุทธ์การเล่นในแต่ละแมพ
ในการเดิมพัน Round Handicap ผู้เดิมพันควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น
- ความถนัดในแต่ละแมพ บางทีมอาจมีผลงานที่ดีในบางแมพมากกว่าแมพอื่น ๆ
- รูปแบบการเล่น บางทีมอาจเน้นการเล่นแบบรุก ในขณะที่บางทีมอาจเน้นการป้องกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนรอบที่ชนะ
- ประวัติการแข่งขัน ดูว่าในการแข่งขันที่ผ่านมา แต่ละทีมมีสถิติการชนะรอบเป็นอย่างไร
Handicap ใน Overwatch League
นอกจาก CS:GO แล้ว อีกหนึ่งเกม FPS ที่มีระบบ Handicap ที่น่าสนใจคือ Overwatch ซึ่งมีการแข่งขันในรูปแบบ Overwatch League (OWL) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง
การแข่งขันใน Overwatch League จัดในรูปแบบ Best-of-Five (Bo5) โดยทีมที่ชนะ 3 แมพก่อนจะเป็นผู้ชนะในแมตช์นั้น ในการเดิมพันแบบ Handicap สำหรับ OWL เจ้ามือมักจะกำหนด Handicap ที่ +1.5, -1.5, +2.5 และ -2.5 ซึ่งมีความหมายดังนี้
สำหรับทีมที่ได้รับ Handicap +1.5
- ผู้เดิมพันจะชนะ หากทีมที่เลือกชนะอย่างน้อย 1 แมพในชุด Bo5
สำหรับทีมที่ได้รับ Handicap -1.5
- ผู้เดิมพันจะชนะ หากทีมที่เลือกชนะการแข่งขันด้วยสกอร์ 3-0 หรือ 3-1 เท่านั้น
สำหรับทีมที่ได้รับ Handicap +2.5
- ผู้เดิมพันจะชนะ หากทีมที่เลือกชนะอย่างน้อย 2 แมพในชุด Bo5
สำหรับทีมที่ได้รับ Handicap -2.5
- ผู้เดิมพันจะชนะ ก็ต่อเมื่อทีมที่เลือกชนะการแข่งขันด้วยสกอร์ 3-0 เท่านั้น
ระบบ Handicap ใน Overwatch League นี้ช่วยให้ผู้เดิมพันมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น และสามารถเลือกระดับความเสี่ยงที่ต้องการได้ ตั้งแต่การเดิมพันแบบปลอดภัยกว่า (เช่น +2.5) ไปจนถึงการเดิมพันที่มีความเสี่ยงสูงแต่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า (เช่น -2.5)
Handicap betting ในเกม FPS ไม่ว่าจะเป็น CS:GO หรือ Overwatch ล้วนเพิ่มมิติความน่าสนใจให้กับการรับชมและเดิมพัน ESport ผู้เดิมพันควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด วิเคราะห์สถิติและรูปแบบการเล่นของแต่ละทีม รวมถึงติดตามข่าวสารล่าสุดของวงการ ESport อยู่เสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจเดิมพันที่แม่นยำมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับการเดิมพันในรูปแบบอื่น ๆ ผู้เดิมพันควรตระหนักว่าการเดิมพัน Handicap ในเกม FPS ก็มีความเสี่ยง ควรเดิมพันอย่างมีความรับผิดชอบและไม่เกินกำลังทรัพย์ของตนเอง การเดิมพัน ESport ควรเป็นกิจกรรมที่สร้างความสนุกและความตื่นเต้นเพิ่มเติมในการรับชมการแข่งขัน ไม่ใช่เป็นภาระหรือปัญหาในชีวิต
การทำความเข้าใจระบบ Handicap ในเกม FPS ทั้ง CS:GO และ Overwatch จะช่วยให้ผู้เดิมพันสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดิมพันบนจำนวนแมพที่ชนะ หรือจำนวนรอบที่ชนะในแต่ละแมพ การติดตามข่าวสาร ศึกษาสถิติ และวิเคราะห์รูปแบบการเล่นของแต่ละทีมอย่างสม่ำเสมอจะเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการเดิมพัน Handicap ในเกม FPS
