เกมเมอร์ faker พระเจ้าแห่ง เกม LoL (LoL)
หากจะให้นึกชื่อโปรเพลเยอร์จากเกม LOL สักหนึ่งชื่อแล้ว เชื่อได้เลยว่าหลายคนจะต้องมีชื่อของ เกมเมอร์ faker ขึ้นมาในหัวอย่างแน่นอน จากหนุ่มธรรมดาที่มีใจรักในการเล่นเกมในแดนกิมจิ สู่การเป็นโปรเพลเยอร์ที่ถูกขนานนามว่า “พระเจ้า” อะไรกันที่พาเขาก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดที่สูงสุดของวงการ อะไรกันที่ทำให้เขาสามารถผ่านบททดสอบยาก ๆ มาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า วันนี้เราจะมาลงรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับชายคนนี้ให้ทุกคนได้รับรู้ไปพร้อมกัน
ประวัติที่มาของ faker ชายที่ถูกยกให้เป็น “พระเจ้าแห่ง LOL”
Faker ชื่อจริงของเขาก็คือ Lee Sang-hyeok (อี ซัง-ฮย็อก) เกิดวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1996 เด็กชายสัญชาติเกาหลีใต้ เขาเติบโตขึ้นมาโดยมีคุณพ่อ Lee Kyung Jun เป็นผู้ดูแลเพียงคนเดียว ในตอนที่ Faker ยังเด็กเขาชื่นชอบในการเล่นเกมแนว MOBA เป็นอย่างมากซึ่งเกมแรกที่เขาได้เคยสัมผัสนั้นก็คือเกม Chaos
ภายหลังที่เขาได้พบกับโฆษณา League of legends บนอินเทอร์เน็ตเขาจึงตัดสินใจเล่นเกมนี้แบบไม่ลังเล และมันก็ทำให้เขาติดเกมนี้อย่างหนักจนเขาสามารถพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้เล่นในระดับสูงได้ แต่ทางแยกของชีวิตก็มาถึงเมื่อเขาต้องตัดสินใจเลือกว่า เขาจะเรียนต่อในชั้นมัธยม หรือจะเปลี่ยนตัวเองมาเป็นผู้เล่นโปรเพลเยอร์ในวงการเกม แน่นอนว่าเขาไม่ลังเลที่จะเลือกเส้นทางที่เขาจะเป็นโปรเพลเยอร์ และเขายังตัดสินใจในการเข้าร่วมทีม SKT K ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 ซึ่งในเวลาต่อมาทีมดังกล่าวเปรียบเสมือนกำเนิดขึ้นมาเพื่อตัวเขาโดยเฉพาะ และเรียกได้ว่านี่กลายเป็นก้าวที่สำคัญที่ทำให้ Faker เข้าวงการ E-Sport แบบเต็มตัว
สำหรับวงการ E-sport กับเกม Dota2 นั้นโปรเพลเยอร์ในตำแหน่งแครี่ที่เล่นเก่งที่สุด โหดที่สุด คือANA เกมเมอร์พาร์ทไทม์ ผู้พา OG คว้าโล่เอจิส 2 สมัยซ้อน (Dota 2) ใครที่อยากรู้ถึงความเป็นมา รีบตามมาทางนี้เลย จะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นการเป็น “พระเจ้า”
ภายหลังที่สร้างทีมขึ้นมาได้เพียงแค่ 1 ปี Faker ก็เริ่มโชว์ฝีมือให้ทุกคนได้ประจักษ์ชัด โดยการจบอันดับที่ 3 ในรายการ OLYMPUS Champions Spring 2013 และยังสามารถจัดการ Ambition ได้ด้วยตัวคนเดียว ซึ่งในเวลานั้นถือว่า Ambition เป็นหนึ่งในโปรเพลเยอร์อันดับต้น ๆ ในเกาหลีใต้เลยทีเดียว นั่นจึงทำให้ Faker จึงถูกพูดถึงอย่างมากในในเวลานั้น แต่จุดเริ่มต้นของสมญานาม “พระเจ้า” นั้นเกิดขึ้นในเกมการแข่งขัน Korea Regional Finals Season 3 เกมสำคัญมาก ๆ สำหรับเขา เพราะหากทีมของเขาชนะ เขาจะได้ไปแข่งขันต่อในรายการ World Championship 2013 นั่นเอง
ศึกตัดสินในครั้งนั้นเป็นการพบกันระหว่างทีม SKT กับ KT Bullet และช็อตสร้างชื่อกับเขาก็คือการปะทะกับระหว่าง Zed กับ Zed ช็อตดังกล่าวสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับ Faker ได้เป็นอย่างมาก และยังเป็นช็อตสำคัญที่พาให้เขาก้าวขึ้นไปสู่การแข่งขัน World Championship 2013 ได้สำเร็จนี่คือจุดสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เล่นที่เก่งที่สุดในเกม LOL หรือที่ใครหลายคนยกให้เป็น “พระเจ้า” นอกจากนั้นเขายังได้กลายเป็นไอดอลของใครหลาย ๆ คนที่ต้องการจะเล่น LOL ในตำแหน่งมิดเลนเนอร์อีกด้วย
ช่วงมรสุมชีวิตของ “พระเจ้า”
ภายหลังจากที่ Faker เป็นที่รู้จักอย่างมาก ในปีต่อมาเขาก็ต้องพบกับช่วงที่ยากลำบากของชีวิตเมื่อทีมของเขาต้องอดไปแข่งขันต่อในรายการ World Champioshiop 2014 เขาได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ในภายหลังว่า “มันเหมือนเป็นฝันร้ายเลยทีเดียว” นอกจากนี้ทีมยังมีการเปลี่ยนผู้เล่นออกถึง 2 คน คือ Piglet และ Impact เนื่องจากความผิดพลาดในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาโค้ชของเขา kkOma ก็ได้หาผู้เล่นคนใหม่เข้ามาในทีมได้แก่ Marin, Easyhoon, Bang และ Wolf ซึ่งภายหลังพวกเขาจะกลายเป็นผู้เล่นคู่ใจกันไปอีก 2 ปี
ในช่วงปี 2015 Faker ต้องสลับกันเล่นกับ Easyhoon และทีมก็สามารถเอาชนะได้ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกดีใจเพราะว่าเขานั้นไม่ได้มีส่วนร่วมในเกมนั้นเลย ทำให้ตลอดทั้งซีซั่นเขาต้องรู้สึกแบบนั้นมาตลอด และไม่มีโอกาสที่จะได้พิสูจน์ว่าเขานั้นดีกว่า Easyhoon อย่างไร จนกระทั่งในรายการ MSI 2015 ทีม SKT ได้ผ่านเจ้าสู่รอบชิงชนะเลิศก็ต้องมาพบกัน EDG และในเกมนั้นพวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปก่อน 2-1 โดยหากจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปนั้นทีมของเขานั้นต้องไม่แพ้อย่างเด็ดขาด และแล้วโค้ช kkoma ได้ตัดสินใจส่ง Faker ลงสนาม
Faker ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาสามารถพาทีมขึ้นมาตีเสมอเป็น 2-2 ก่อนที่เกมสุดท้ายเขาจะเลือก Leblanc ที่เขานัด และยังไม่เคยแพ้ใคร แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกอีกครั้งเมื่อเกมจบลงที่ SKT พ่ายแพ้ให้กับ EDG และยังเป็นครั้งแรกที่ Leblanc ของเขาพ่ายแพ้อีกด้วย มันส่งให้ตัวเขาหมดกำลังใจ และเป็นจุดที่ตกต่ำที่สุดของเขาเลยก็ว่าได้
ทวงตำแหน่ง “พระเจ้า” คืนมา
เมื่อเข้าสู่รายการ World Championship 2015 ฟอร์มของพวกเขาก็กลับมาดีอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากที่แฟน ๆ คิดว่าทีม SKT คงกลายเป็นอดีตไปแล้ว พวกเขาสามารถโค่น KOO Tiger ได้สำเร็จ และสามารถทวงตำแหน่งแชมป์มาได้สำเร็จ และเมื่อเข้าสู่ปี 2016 Easyhoon ได้ย้ายไปเล่นให้กับทีม Vici Gaming ในจีน ทำให้ Faker มีโอกาสกลับมาทวงตำแหน่งของเขาคืน เขาก็สามารถทำมันได้ในที่สุด เมื่อเขาสามารถคว้าชัยชนะในรายการ World Championship 2016 ได้สำเร็จ ซึ่งถือว่าเป็นการคว้าแชมป์ครั้งที่ 3 ของเขา และมีเพียงแค่ Faker กับ Bengi ที่สามารถคว้าแชมป์โลก LOL มาได้ถึง 3 สมัย
หลังจากนั้น เกมเมอร์ faker ยังต้องเจอกับความผิดหวังในปี 2018 โดยการที่ทีม SKT ต้องตกรอบ World Championship เป็นครั้งที่ 2 แต่ก็สามารถกลับได้อีกครั้งในปี 2019 ในนามของทีม T1 (ชื่อใหม่ของ SKT) โดยสรุปแล้วเส้นทางการเป็นโปรเพลเยอร์ของชายคนนี้นั้นไม่ได้โรยมาด้วยกลีบกุหลาบ เขาต้องเจอกับมรสุมต่าง ๆ ในชีวิตทั้งการที่ต้องพบเจอกับฟอร์มการเล่นที่ตกลง การที่ต้องลงเล่นสลับกับโปรเพลเยอร์คนอื่น และยังต้องพัฒนาตัวเองให้สามารถกลับมาทวงตำแหน่ง “พระเจ้า” ได้อีกครั้ง นี่ถือว่าเป็นเรื่องราวชีวิตที่เข้มข้นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
อ้างอิง
