ANA เกมเมอร์พาร์ทไทม์ ผู้พา OG คว้าโล่เอจิส 2 สมัยซ้อน (Dota 2)
เชื่อว่าหากใครที่ได้ติดตามวงการ E-Spot ของเกม DOTA 2 มากอย่างยาวนานแล้วนั้น จะต้องรู้จักกับโปรเพลเยอร์ในตำแหน่งแครี่ที่เก่งที่สุด โหดที่สุด และยังเป็นผู้ที่สามารถพาทีม OG ขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดของวงการได้ถึง 2 ครั้ง ถึงแม้ว่าในช่วงที่เขาลงแข่งนั้นจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพียงแค่ 3 เดือน เพราะเขาคือผู้เล่นพาร์ทไทม์ที่จะรับงานเพียงแค่งาน TI จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ANA เกมเมอร์พาร์ทไทม์ สุดยอดแครี่แห่งทีม OG หากคุณต้องการที่จะรู้แล้วว่าอะไรคือสูตรสำเร็จที่ทำให้เขาสามารถพาทีมก้าวไปบนจุดสูงสุดได้ วันนี้เราจะมาเปิดเผยเรื่องราวของ ana ให้ทุกคนได้รู้จักกับเขากัน
โปรเพลย์เยอร์จากเกม LoL (LoL) ที่รู้จักกันในชื่อ เกมเมอร์ faker จากเด็กชายธรรมดาจากแดนกิมจิแต่ชอบเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ ได้โชว์ฝีมือและก้าวสู่การเป็นโปรเพลย์เยอร์ซึ่งไม่ง่ายเลย อีกทั้งถูกขนานนามใหม่และยกให้เป็นพระเจ้าแห่ง LOL ถ้าอยากรู้ว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เขาต้องทำยังไงบ้าง เราไปดูพร้อมๆกันเลย
จุดเริ่มต้นของผู้เล่นพาร์ทไทม์
Anathan Pham หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ana เด็กหนุ่มขี้อายจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เขาเป็นเด็กลูกครึ่งจีนภายใต้การดูแลของคุณแม่ และในครอบครัวของยังประกอบไปด้วย พี่ชาย 1 คน พี่สาว 1 คน และน้องสาวอีก 1 คน ในช่วงที่เขายังเด็กแอนนาเป็นเด็กที่ค่อนข้างเก็บตัว ขี้อายมาก ๆ มีเพียงแค่ในโลกของเกม DOTA2 เท่านั้นที่เขาสามารถเปิดเผยความสามารถที่แท้จริงออกมาได้
Ana เริ่มเล่นเกม DOTA 2 ครั้งแรกในวัย 12 ปี เขาชื่นชอบเกมโมบ้าเกมนี้เอาอย่างมาก จนถึงกับขั้นที่เขาเล่นเกมนี้ติดต่อกันได้วันละ 10 ชั่วโมง ความคลั่งรักในเกม DOTA 2 ของเขามันทำให้เขาถึงกับขั้นไม่อยากไปโรงเรียนกันเลยทีเดียว เขาเริ่มต้นการแข่งเกม DOTA 2 ครั้งแรกในวัย 14 ปีกับทีมเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า Mobility Gaming International แต่เขาก็เล่นได้เพียงเกมเดียวเท่านั้น ทีมก็ล่มลงไม่เป็นท่า ด้วยสาเหตุที่ว่าการแข่งขันในออสเตรเลียนั้นไม่ได้มีความน่าสนใจมากเท่าที่ควร แต่กระนั้น Ana ก็ไม่ได้ย่อท้อและพยายามฝึกฝนตัวเองต่อไป
เส้นทาง E-Spot ของ Ana ในฐานะโปรเพลเยอร์ DOTA 2
จุดเริ่มต้นของการแข่งขันในฐานะโปรเพลเยอร์ของ Ana เริ่มต้นในปี 2015 เขาโดนทาบทามให้เป็นผู้เล่นฝึกหัดของทีม CDEC ทีมในลีกจีน เวลาก็ผ่านไป 1 ปี Ana ได้เข้าไปอยู่ในทีม IG แต่ก็ยังต้องเป็นตัวสำรองให้กับ Ferrari_430 ผู้ที่เคยคว้าแชมป์ IT ในปี 2012 เขาไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงเล่นได้บ่อยเท่าไหร่นัก รายการเดียวที่เขาได้แสดงฝีมือจริง ๆ คือ National Electronic Arena 2016 และแล้วโชคชะตาก็เล่นตลกเมื่อทีม IG ไม่สามารถผ่านเข้ารอบ Qualify ไปได้ในปี 2016 ทำให้เขาต้องออกจากทีมไปในท้ายที่สุด
ตัดภาพมาที่ TI 6 ทีม OG ในขณะนั้นกำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมโดยการเก็บคะแนนได้เยอะแยะในรอบแบ่งกลุ่ม แต่กลับโดนทีม TNC เตะกลับบ้านไปอย่างน่าเสียดาย จากเหตุการณ์ดังกล่าวพวกเขาต้องเสียผู้เล่นไปถึงสามคนคือ Miracle, MoonMeander และ Cr1t ทีม OG จึงต้องเร่งเสริมทัพทันทีโดยการดึง Jerax, S4 และ Ana เข้ามาเป็นตัวเสริมให้กับทีม และบททดสอบแรกก็คือการลงแข่งขันในรายการ The Boston Major และพวกเขาก็สามารถคว้าแชมป์มาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แถมยังสามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์มาได้จากรายการ Dota 2 Asia Championship 2017 และตามมาด้วยการคว้าแชมป์ในรายการ The Kiev Major 2017 มาครองดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปได้สวย แต่แล้วเมื่อทีม OG เข้าสู่รายการ International 2017 ทีมทำได้เพียงตกรอบในอันดับที่ 7-8 ร่วมส่วน Ana ก็โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นตัวทำลายเกม และหากเปลี่ยนเขาออกทีมจะต้องดีกว่านี้ มันทำให้เขาตัดสินใจไม่ไปต่อกับทีมหลังการแข่งขัน TI7 จบลง
หวนกลับมาสู่เส้นทางแห่ง E-Spot อีกครั้ง
ภายหลังจากที่เขาวางมือจากทีม OG ไป Ana ก็ได้หันไปเป็นเชฟแทนตามไอดอลของเขา Gordon Ramsey แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น Ana ก็ต้องหันกลับมาลงแข่งขันอีกครั้งในฐานะสมาชิกทีม Echo International หลังจากนั้นเพียง 2 เดือน เขาก็กลับไปเล่นให้กับทีม OG อีกครั้งด้วยเหตุผลที่ว่า Fly และ s4 ถอนตัวออกจากทีมไปอย่างกะทันหันก่อนถึงการแข่งขัน TI 8 ซึ่งการกลับมาของเขาในครั้งนี้ไม่ได้กลับมาเพียงคนเดียวเท่านั้น เขายังมาพร้อมกับ Topson ในตำแหน่ง Offlane อีกด้วย
Ana มีสไตล์การเล่นแครี่ที่ดุดัน มีความมุ่งมั่นสูง และเขายังกล้าที่จะเล่นในหลาย ๆ จังหวะ เสริมด้วยความเก่งกาจของ Topson ทำให้เขาสามารถพาทีม OG คว้าแชมป์ TI8 มาได้สำเร็จ และเขายังคว้าตำแหน่ง MVP มาครองอีกด้วย และเมื่อหลังคว้าแชมป์มาได้แล้ว Ana ก็ได้พักการแข่งขัน DOTA 2 อีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้เขาได้ขอออกไปทำอะไรหลาย ๆ อย่างทั้งการท่องเที่ยว การเรียนทำอาหารเป็นต้น
การพาทีม OG คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2
ภายหลังที่ Ana วางมือไป ทีม OG ก็ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง พวกเขาเก็บคะแนนรวมได้เพียง 50 คะแนน เท่านั้นในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก ในขณะที่ทีมอันดับ 1 ของโลกในตอนนั้นเก็บคะแนนได้มากถึง 7950 คะแนน ทำให้ผู้เล่นในทีมต่างสิ้นหวังกับการแข่งขันในครั้งนี้เป็นอย่างมาก Ana จึงต้องหันกลับมาช่วยทีมอีกครั้งหนึ่ง แต่ช่วงแรกพวกเขาก็ยังไม่สามารถเก็บชัยชนะได้มากเท่าที่ควร แต่นั่นก็ทำให้ทีม OG กลับมามีความมั่นใจมากขึ้นจนสามารถเก็บคะแนนได้มากพอในการผ่านเข้าสู่การแข่งขัน TI 9 ได้สำเร็จ
เมื่อเข้าสู่การแข่งขัน TI9 เขาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในคราวนี้พวกเขาสามารถพัฒนาการเล่นขึ้นไปได้อีกระดับโดยการใช้ IO ตัวละครที่ถือว่าแปลกใหม่สำหรับโปรเพลเยอร์เป็นอย่างมาก แถม Ana ยังเป็นเจ้าของสถิติ IO ไม่แพ้ใครอีกด้วย และด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมในท้ายที่สุดทีม OG สามารถคว้าแชมป์ TI9 ซึ่งถือเป็นแชมป์สมัยที่ 2 มาได้สำเร็จ และเช่นเคยเมื่อจบการแข่งขัน Ana ก็ขอลาไปทำตามความฝันในการเป็นเชฟของตัวเองต่อไป
ปัจจุบัน Ana ได้แขวนเมาส์จากการแข่งขันเกม DOTA 2 ไปแล้วในปี 2021 ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม Ana ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเล่นนเกมนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดอะไร แต่มันทำให้เขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นโปรเพลเยอร์ระดับโลกได้ ไม่ว่าเขาจะล้มลุกคลุกคลานสักกี่ครั้ง เขาก็สามารถกลับมาและผ่านพ้นมันไปได้เสมอ จนสามารถคว้าแชมป์โลกมาได้ถึง 2 สมัยเลยทีเดียว
อ้างอิง
